"ทุกสิ่งเพื่อพระสิริมงคลของพระเจ้า" - บุญราศี มารีอา โดเมนิกา บรุน บาร์บันตินี

     เมื่อย้อนกลับไปประมาณ 20 กว่าปีที่ฉันอยู่ในนวกสถานและได้ขอผู้ใหญ่ไปทำประสบการณ์ที่บ้านเพราะความไม่แน่ใจในกระแสเรียกของตน ที่บ้าน  ฉันได้ไปสมัครทำงานที่บ้านพักคนชราของเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งใกล้บ้าน ได้ไปสัมผัสประสบการณ์การทำงานดูแลผู้สูงอายุในศูนย์นั้นว่าจะเป็นอย่างไร จิตใจของฉันเปี่ยมไปด้วยความสุขในการได้ช่วยเหลือคุณตาคุณยาย  แต่ในเวลาเดียวกันก็เปี่ยมด้วยความทุกข์

เพราะวิธีการดูแลของศูนย์นั้น  พนักงาน เจ้าหน้าที่ที่ทำงานกันตามตารางเวลาอย่างเต็มที่ เพราะต้องทำตามหน้าที่   แต่ไม่ได้ทำเพราะความรักเมตตา เจ้าของศูนย์พูดให้ฟังว่างานที่นี้เป็นงานการดูแลแบบธุรกิจไม่ใช้งานเมตตากิจ ซึ่งมันทำให้ใจฉันหวั่นไหวเพราะความสงสารคุณตาคุณยายที่นั่นจิตใจฉันหดหู่และเศร้าหมองที่ไม่สามารถช่วยบรรเทาความทุกข์ของพวกท่านทั้ง ๆ ที่อยู่ต่อหน้าฉันได้เลย

พระองค์ถูกตอกตรึงไม่มีแขนขาที่จะวิ่งไปช่วยเหลือดูแลใครได้แต่พระองค์มีฉันที่จะไปบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องที่อยู่ในความทุกข์ทรมาน

             ฉันร้อนร้นและกระวนกระวาย  ฉันกระหายหาพระเจ้าและได้ไปสวดภาวนาร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ในวัด  ต่อหน้าไม้กางเขนที่พระองค์ถูกตอกตรึงอยู่ จิตใจฉันสงบลงแต่กลับเจ็บปวดเพิ่มขึ้นว่า ขนาดพระองค์เป็นพระเจ้า ยังถูกมนุษย์ตอกตรึงให้ทรมานจนตาย ทำให้ฉันได้รำพึงถึงความทุกข์ยากลำบาก  ความทรมานที่มีอยู่ในชีวิตมนุษย์ทุกคนมากน้อยแตกต่างกัน  แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องแบกรับ เป็นกางเขนที่ต้องแบกและถูกตอกตรึงในชีวิต และความคิดหนึ่งที่ขึ้นมาว่าตอนนี้พระองค์ถูกตอกตรึงไม่มีแขนขาที่จะวิ่งไปช่วยเหลือดูแลใครได้แต่พระองค์มีฉันที่จะไปบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องที่อยู่ในความทุกข์ทรมาน ฉันคงไม่สามารถช่วยใครให้พ้นความทุกข์และความตาย แต่ในเวลาแห่งความทุกข์นั้น  ...ฉันสามารถเป็นความสุขเล็ก ๆ เป็นความบรรเทาใจ เป็นความอบอุ่น เป็นรอยยิ้มและกำลังใจ เป็นผู้อยู่เคียงข้างและเข้าใจ นั่นคือสิ่งที่ฉันได้รับ และเป็นดังน้ำทิพย์ชโลมใจฉัน อย่างฉับพลันเติมพลังใจใหม่ ให้เบิกบานและชื่นชมยินดี ที่ทำให้ฉันต้องลุกขึ้นออกจากวัด ด้วยรอยยิ้มและความสุขใจ ฉันพร้อมที่จะก้าวเดินไปทำงานของพระองค์พร้อมกับพระองค์และในความช่วยเหลือของพระองค์

ซิสเตอร์วิภากมล