"ทุกสิ่งเพื่อพระสิริมงคลของพระเจ้า" - บุญราศี มารีอา โดเมนิกา บรุน บาร์บันตินี

             ขอบคุณพระเจ้าสำหรับช่วงเวลาของการเตรียม 50 ปี ของคณะเป็นพิเศษในการเตรียมฉลอง 25 ปีของชีวิตการเจิม ถวายตนในชีวิตนักบวชของดิฉันเอง ในคณะภคินีผู้รับใช้คนป่วยแห่งนักบุญคามิลโล ขอขอบคุณพระเจ้าเป็นพิเศษที่ทรงให้ประสบการณ์การสัมผัสกับบรรดามิชชันนารีรุ่นแรก ๆ ซึ่งเป็นพลังบวกและแบบอย่างแห่งการเสียสละชีวิตที่จับต้องได้เป็นผู้ที่ ได้หว่านเมล็ดแห่งความเชื่อเมล็ดพันธุ์แห่งการเป็นพยานถึงพระเยซูอย่างแท้จริง การยอมทิ้ง น้ำใจตนเองมอบชีวิตให้กับผู้อื่นอย่างไม่มีเงื่อนไข 

พระองค์เท่านั้น คือ หนทาง ความจริง และชีวิต

ท่านได้อบรมสั่งสอนด้านมโนธรรม และ การเลียนแบบความรักเมตตาของพระเจ้าอย่างแท้จริงขอบคุณพวกท่านที่ได้วางรากฐานที่ชัดเจนในการติดตามพระเจ้าอย่างไม่มีสุดหัวใจ สุดกำลัง  ณ จนถึงวันนี้กาลเวลาผ่านไป มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางสังคมโลกและชีวิตที่ส่งผ่านตามยุคสมัย ทำให้ชีวิตนักบวชก็ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งก็เรียกร้องตัวเองให้ต้องเปิดตาเปิดใจมองด้วยสายตาใหม่ ดิฉันก็รู้สึกว่าไม่ง่ายที่เข้าใจและยอมรับได้ในบางอย่าง  เป็นเหมือนเป็นกระแสอำนาจทางโลกที่มองไม่เห็นที่เข้ามาแตะชีวิตนักบวชของเราด้วย ทำให้ดิฉันรู้สึกต้องการค้นหาคำตอบว่าฉันจะต้องทำอะไรในสิ่งที่พระองค์ ทรงอนุญาตให้เกิดขึ้นและดิฉันก็ได้ค้นพบด้วยความอิสระอย่างแท้จริงจากการที่ได้เข้าเงียบ 1 เดือน ขอบคุณพระที่พระองค์ทำให้ดิฉันเข้าใจและปล่อยวางหลายอย่าง ซี่งไม่ใช่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้ทันทีแต่ยังคงเป็นการเดินทางด้วยความเข้าใจด้วยหัวใจใหม่ทั้งในเรื่องของการภาวนาชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระและความสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างมีสติ ท่ามกลางกระแสทางโลกที่แยบยลของการติดต่อที่รวดเร็ว หาความจริงใจได้น้อยและมองกันที่ผลงานและผลประโยชน์ ต้องแสดงตัวตนเพื่อให้เป็นที่ชื่นชม ยอมรับหรือต้องการตำแหน่งอำนาจเพื่อขับเคลื่อนตนเองในแบบที่ต้องการได้ง่ายขึ้น และกระแสที่ตามความนิยมแบบพรรคพวก หรือไม่มีการไตร่ตรองหาความจริงโดยฟังความข้างเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำร้ายคนได้อย่างโหดร้ายที่สุด โดยเฉพาะในโลกโซเซียลทำให้ดิฉันเห็นชัดขึ้นว่า ชีวิตการเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ทำให้ดิฉันค้นพบความจริงที่ชัดเจนว่าพระองค์เท่านั้น คือ หนทาง ความจริง และชีวิตอย่างแท้จริง พระองค์ทรงเป็นหนทางที่แนะแนวทางที่ดีที่สุด เป็นความจริงที่ไม่มีหลอกลวง ไม่มีผลประโยชน์ที่ต้องต่อลอง และไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าฉันจะเป็นอย่างไร พระองค์ทรงเป็นชีวิตที่ทำให้ดิฉันสามารถต่อกรกับอำนาจทางโลกที่ดึงจิตใจดิฉันให้พบความตาย แต่พระองค์ทรงเป็นพละกำลังผ่านทางพระวาจาที่ยกใจฉันให้พบกับความดีที่ถูกด้องไม่มีความเหลื่อมล้ำของสถานะที่แตกต่าง การมองพระเจ้าเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิต และดิฉันก็ได้ความอิสระภายในที่จะทำสิ่งต่างๆโดยทำทุกสิ่งเพื่อพระเป็นเจ้าไม่ต้องรอคอยการให้รางวัลในทุกรูปแบบ ไม่ต้องโชว์ผลงานด้วยว่ารางวัลของเราอยู่กับพระเจ้าแล้ว เพราะ  I belong to God… “ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าและข้าพเจ้าเป็นประชากรที่ทรงเลี้ยงดูดุจฝูงแกะที่ทรงนำไปในทุ่งหญ้า”  (สดด.95: 7)

ซิสเตอร์รัชพร